แชร์

วิธีไล่น้ำออกจากที่ชาร์จ iPhone และ มือถือ Android

อัพเดทล่าสุด: 25 ก.ย. 2025
4 ผู้เข้าชม

คุณเคยทำโทรศัพท์มือถือเปียกน้ำไหมครับ?

ผมเองก็เคยเจอประสบการณ์แบบนั้นมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ตอนกำลังเดินทางกลับบ้านช่วงที่ฝนตกหนัก จังหวะที่กำลังจะก้าวลงจากรถ ผมทำ iPhone หลุดมือตกลงไปในแอ่งน้ำเล็กๆ ข้างทาง สิ่งแรกที่ทำคือรีบเก็บขึ้นมาทันที เช็ดๆ ถูๆ เท่าที่จะทำได้ แล้วสิ่งที่ตามมาคือความกังวลว่า "เครื่องจะพังไหม?" และที่สำคัญคือ "จะชาร์จแบตเตอรี่ได้หรือเปล่า?"

ทันทีที่เสียบสายชาร์จ ข้อความแจ้งเตือนสีดำๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอว่า "ตรวจพบของเหลวในช่องต่อ Lightning" หรือ "ตรวจพบของเหลวในช่องต่อ USB-C" นั่นคือสัญญาณว่าคุณไม่ควรรีบชาร์จแบตเตอรี่ในทันที เพราะอาจทำให้เกิดการลัดวงจรและสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อตัวเครื่องได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะมีวิธีจัดการที่ถูกต้องอยู่

วิธีไล่น้ำออกจากที่ชาร์จ iPhone และ มือถือ Android ทำอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความใจเย็น และ อย่าเพิ่งทำอะไรกับมัน (อย่างผิดวิธี) การรีบร้อนอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ครับ

ปิดเครื่องทันที

หากเครื่องยังเปิดอยู่ ให้ปิดเครื่องก่อน เพื่อป้องกันการลัดวงจร

 

คว่ำเครื่องลงและเคาะเบาๆ

ถือ iPhone ในแนวตั้งโดยให้พอร์ตชาร์จอยู่ด้านล่าง ใช้มือเคาะที่ด้านหลังเครื่องเบาๆ (ไม่ใช่เขย่าแรงๆ) เพื่อไล่น้ำที่ค้างอยู่ในพอร์ตให้ไหลออกมา

 

ผึ่งลมธรรมชาติ

วาง iPhone ไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและแห้งสนิทเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที หรืออาจจะนานกว่านั้น (เช่น 24 ชั่วโมง) เพื่อให้มั่นใจว่าพอร์ตแห้งสนิท

 

ข้อควรระวังสำคัญ

  • ห้ามใช้ไดร์เป่าผม ลมร้อน หรือเครื่องเป่าลมใดๆ: ความร้อนอาจทำให้ซีลกันน้ำเสียหายและทำให้น้ำซึมเข้าไปลึกกว่าเดิม
  • ห้ามใช้สำลีปั่นหู ไม้จิ้มฟัน หรือวัตถุแปลกปลอมอื่นๆ แหย่เข้าไปในพอร์ต: อาจทำให้พอร์ตชาร์จเสียหาย หรือดันน้ำเข้าไปลึกขึ้น

 

รู้ได้อย่างไรว่า iPhone โดนน้ำจริงจังแค่ไหน? (LCI Detector)

  • Apple ได้ติดตั้งตัวชี้วัดความเสียหายจากของเหลว หรือ LCI (Liquid Contact Indicator) ไว้ใน iPhone ทุกรุ่น เพื่อให้เราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองว่าเครื่องเคยสัมผัสกับของเหลวมาแล้วหรือไม่
  • โดยปกติ LCI จะมีสี ขาวหรือสีเทาอ่อน
  • แต่เมื่อสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น ตัวชี้วัดนี้จะเปลี่ยนเป็นสี แดงหรือสีชมพู ทันที

 

วิธีตรวจสอบ

 

  • ใช้เครื่องมือถอดถาดซิมที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ค่อยๆ ดึงถาดซิมออกมา
  • ใช้ไฟฉายส่องเข้าไปดูที่ด้านในของช่องใส่ซิม (ไม่ใช่บนถาดซิม)
  • หากเห็นจุดเล็กๆ สีแดงหรือชมพู นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า iPhone ของคุณเคยสัมผัสกับของเหลวมาแล้ว


สำหรับ Android: แม้ Android ส่วนใหญ่จะไม่มี LCI ที่ผู้ใช้มองเห็นได้โดยตรงเหมือน iPhone แต่โทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ มักมีเซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้นในพอร์ตชาร์จ และจะแสดงข้อความแจ้งเตือนเมื่อพบน้ำ หลักการแก้ไขก็ยังคงเหมือนกันคือ ปิดเครื่อง ผึ่งให้แห้ง และห้ามชาร์จ!

 

ถ้ายังชาร์จไม่ได้... เมื่อไหร่ควรนำไปซ่อม? (และเงื่อนไขการเคลม)

 

หากคุณทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว ข้อความแจ้งเตือนยังคงปรากฏอยู่ หรือ LCI เปลี่ยนเป็นสีแดง นั่นหมายความว่าน้ำอาจสร้างความเสียหายภายในแล้วครับ

เงื่อนไขการเคลม: Apple ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "ความเสียหายจากของเหลวไม่อยู่ภายใต้การรับประกัน" (อ้างอิงจาก https://support.apple.com/th-th/109350) ดังนั้น หาก iPhone ของคุณมี LCI เปลี่ยนเป็นสีแดง คุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมเอง


ทางออกที่ดีที่สุด: นำ iPhone ของคุณไปที่ Apple Store หรือ ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต (Authorized Service Provider) เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม การซ่อมกับศูนย์ที่ได้รับอนุญาตจะมั่นใจได้ว่าใช้อะไหล่แท้ และไม่ทำให้ความเสียหายลุกลาม


การป้องกันที่ดีที่สุด: เริ่มต้นที่ตัวเราและอุปกรณ์ชาร์จที่ไว้ใจได้

บทเรียนที่ได้จากการทำ iPhone เปียกน้ำ คือการป้องกันสำคัญที่สุดครับ โดยเฉพาะการเลือกใช้อุปกรณ์เสริมที่มีคุณภาพ
  • ใช้ซองหรือเคสกันน้ำ : โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
  • เลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐาน : การใช้สายชาร์จและหัวชาร์จที่ได้รับการรับรอง MFi (Made for iPhone/iPad) สำหรับ iPhone หรืออุปกรณ์คุณภาพสูงสำหรับ Android จะช่วยลดความเสี่ยงจากการลัดวงจรเมื่อพอร์ตชาร์จเปียกน้ำได้


แบรนด์อย่าง ZMI (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Xiaomi Ecosystem) เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง MFi และมีมาตรฐานการผลิตที่เชื่อถือได้ คุณสามารถดูสินค้าได้ที่ https://www.zmithailand.com/ การลงทุนกับอุปกรณ์คุณภาพจะช่วยปกป้องโทรศัพท์ของคุณได้อย่างแท้จริง

การดูแล iPhone หรือสมาร์ทโฟนของเราไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจและทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้คุณใช้งานอุปกรณ์คู่ใจได้อย่างไร้กังวลไปอีกนานครับ

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy