ฝนตก ฟ้าร้อง ชาร์จมือถือปลอดภัยจริงหรือ? ไขคำตอบฉบับปี 2025
ความเชื่อที่ว่า "อันตราย" และที่มาของมัน
สมัยก่อน เรามักจะได้ยินคำเตือนจากผู้ใหญ่ว่าอย่า ชาร์จแบตโทรศัพท์ หรือเล่นมือถือตอนฝนตกฟ้าผ่าเด็ดขาด! ความเชื่อนี้ไม่ได้มาจากการคิดไปเองทั้งหมดครับ ย้อนกลับไปเมื่อ 20-30 ปีก่อน อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างยังไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ป้องกันไฟกระชากได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อฟ้าผ่าใกล้ๆ จะเกิด แรงดันไฟฟ้าสูง หรือที่เรียกว่า Surge ไหลเข้ามาตามสายไฟ ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้ง่าย และถ้ากำลัง ชาร์จแบตโทรศัพท์ อยู่ ตัวเครื่องและอะแดปเตอร์ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียหายตามไปด้วย
ความจริงในยุคปัจจุบัน
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีได้พัฒนาไปไกลมากแล้วครับ โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ ชาร์จแบตโทรศัพท์ สมัยใหม่มีวงจรป้องกัน Surge ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากไฟกระชากลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ระบบไฟฟ้าตามอาคารบ้านเรือนก็มีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าและสายดินที่ได้มาตรฐานมากขึ้น
แต่... นั่นไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงจะหายไป 100% นะครับ ️ แม้โทรศัพท์มือถือของเราจะมีระบบป้องกันที่ดี แต่ในกรณีที่ฟ้าผ่าลงใกล้ๆ บ้าน Surge ที่รุนแรงมากๆ ก็ยังสามารถทะลุระบบป้องกันเข้ามาได้อยู่ดี
แล้วการเล่นมือถือล่ะ? การเล่นมือถือโดยไม่ได้ ชาร์จแบตโทรศัพท์ จะปลอดภัยกว่ามากครับ เพราะไม่มีการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าภายนอกโดยตรง แต่ถ้าคุณอยู่ในที่โล่งแจ้งและฟ้ากำลังคะนอง โทรศัพท์มือถือก็ยังเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้ และจะกลายเป็น ตัวล่อฟ้า ในสถานการณ์นั้นครับ ดังนั้นในกรณีนี้ก็ยังไม่ควรใช้โทรศัพท์อยู่ดี
สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง ผมมีข้อควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ดังนี้ครับ
1. ใช้อุปกรณ์ในสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
อยู่ภายในอาคาร: เลือกใช้โทรศัพท์ในอาคารที่มีระบบป้องกันฟ้าผ่าและมีสายดินที่ได้มาตรฐาน
หลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง: อย่าใช้โทรศัพท์ในพื้นที่โล่งกว้าง เช่น กลางทุ่งนา, สนามกีฬา, หรือบนดาดฟ้าอาคาร เพราะคุณจะกลายเป็นจุดที่สูงที่สุดในบริเวณนั้น และเพิ่มความเสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่า
หลีกเลี่ยงต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้า: ไม่ควรหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่หรือใกล้เสาไฟฟ้า เพราะเป็นจุดที่ฟ้ามีโอกาสผ่าลงมาได้ง่าย
2. งดการชาร์จแบตเตอรี่โดยเด็ดขาด
ถอดปลั๊กออกทั้งหมด: ถ้าจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ ให้ถอดปลั๊กชาร์จออกจากเต้าเสียบก่อนใช้งาน เพราะกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าสามารถไหลผ่านสายไฟมายังโทรศัพท์ได้
ใช้ Power Bank หากจำเป็น: หากแบตเตอรี่ใกล้หมดและจำเป็นต้องใช้งานจริงๆ ให้ใช้ Power Bank ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับปลั๊กไฟบ้าน
3. ระมัดระวังการใช้อุปกรณ์เสริม
หลีกเลี่ยงหูฟังแบบมีสาย: สายหูฟังโลหะที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์อาจกลายเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี หากเกิดฟ้าผ่าในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้หูฟังแบบมีสายขณะฝนตกฟ้าร้อง
งดสัมผัสอุปกรณ์ที่เป็นโลหะ: หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับวัตถุหรือเครื่องประดับที่เป็นโลหะในระหว่างที่มีฝนฟ้าคะนอง เพราะโลหะเป็นสื่อนำไฟฟ้า
4. ทำความเข้าใจความจริงเกี่ยวกับโทรศัพท์กับฟ้าผ่า
โทรศัพท์ไม่ใช่ตัวล่อฟ้า: สัญญาณโทรศัพท์ไม่ได้มีพลังงานสูงพอที่จะล่อฟ้าผ่า แต่ตัวเครื่องที่มีส่วนประกอบของโลหะ และการที่เรายืนอยู่ในที่โล่งแจ้งต่างหากที่เพิ่มความเสี่ยง
ระวังกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ: ฟ้าผ่าในบริเวณใกล้เคียงอาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำเข้ามาในโทรศัพท์ ทำให้แบตเตอรี่ลัดวงจรหรือระเบิดได้
การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายในช่วงเวลาที่ฝนฟ้าคะนองได้อย่างมากครับ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ!
สรุปและคำแนะนำจากประสบการณ์
โดยสรุปแล้ว การ ชาร์จแบตโทรศัพท์ และการเล่นมือถือในยุคปัจจุบันมีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้างหากเกิดฟ้าผ่ารุนแรงใกล้เคียงบริเวณที่พักอาศัย
